นั่นมันแค่ภาษีศุลกากร! สงครามการค้าของทรัมป์ทำลายโอกาสของฉันในการเป็นเศรษฐี

เอาล่ะ เมื่อมองย้อนกลับไป บางทีฉันอาจไม่ควรเอาเงินเก็บทั้งหมดของฉันไปลงทุนในหุ้นฟิวเจอร์สเทียบกับเบคอนแคนาดา ทรัมป์ขึ้นภาษี 25% ได้โจมตีแคนาดา เม็กซิโก จีน และถ้าจะพูดตรงๆ ก็คือโจมตีทั้งตัวฉันเลย

ทุกคนได้รับผลกระทบ ฉันรู้ว่าตลาดหุ้นตกต่ำ ราคาพลังงานและสินค้าอุปโภคบริโภค ถูกกำหนดให้พุ่งสูงขึ้นแต่ฉันคิดว่านั่นคือราคาของอิสรภาพทางการเงิน จากมุมมองของฉัน ฉันจะมีอิสรภาพทางการเงินมากขึ้นอีกมาก เพราะฉันจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของระบบการเงินอีกต่อไป ฉันคิดว่าฉันอาจจะไปใช้ชีวิตในป่าหรืออะไรทำนองนั้น

ดูสิ ฉันไม่รู้เรื่องการเงินเลย ฉันยอมรับ ฉันไม่มีที่ปรึกษาทางการเงิน (ทำไมฉันต้องเสียเงินไปกับเรื่องนั้นด้วย) แต่คำแนะนำที่ฉันยึดถือมาตลอดก็คือ “จงทำอย่างใหญ่โตและล้มละลาย” หรืออะไรประมาณนั้น สิ่งที่ฉันทำก็คือ ฉันกู้เงินจำนองบ้านเป็นครั้งที่สาม และใช้เงินนั้นเป็นหลักประกันสำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเหล่านี้ จากนั้น ฉันได้ยินมาว่าทองคำเป็นมาตรฐานทองคำ ฉันจึงนำเงินทั้งหมดที่มีไปแลกเป็นทองคำ จากนั้นฉันก็เอาทองคำนั้นไปจำนำ แล้วใช้เงินจำนวนนั้นเดิมพันว่าจะได้ทองคำคืนที่ร้านจำนำทันเวลาหรือไม่

มันเป็นแผนที่สมบูรณ์แบบแต่แล้วโดนัลด์ ทรัมป์ก็เข้ามาและทำลายมันลง

ตอนนี้ฉันกำลังเขียนข้อความนี้จากร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ร้างแห่งหนึ่งในเมืองทูซอน โดยหวังว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางจะไม่ติดตามที่อยู่ IP นี้ แม้ว่าพวกเขาจะติดตาม ฉันก็คงตายไปนานแล้ว

เห็นได้ชัดว่าแคนาดา จีน และประเทศอื่นๆ จะตอบโต้ด้วยภาษีศุลกากรของตนเอง และฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบหรือเปล่า ฉันขอเข้าร่วมด้วยได้ไหม ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงกำหนดภาษีศุลกากรเองไม่ได้ เช่น สมมติว่าฉันกำหนดภาษีศุลกากรให้กับพ่อค้ารับจำนำที่ครอบครองทองคำของฉัน เขาก็ต้องให้ฉัน 25% ใช่ไหม ฉันหมายความว่า ถ้าทรัมป์สามารถเรียกเก็บเงินจากผู้คนได้มากขึ้น ฉันก็ทำแบบนั้นได้เช่นกันใช่ไหม “จงเป็นประธานาธิบดีแห่งโชคชะตาของคุณเอง” นั่นคือคำแนะนำชีวิตที่ฉันยึดถือ

ทรัมป์บอกว่า "ไม่มีที่ว่างเหลืออีกแล้ว" สำหรับการเจรจาเรื่องพวกนี้ แต่ เฮ้ ช่วยหน่อยเถอะ ดอน ช่วยหน่อยเถอะ ดอน เหมือนกับว่าฉันกำลังจมน้ำอยู่ที่นี่ เหมือนกับว่าฉันกำลังจมน้ำอยู่ที่นี่จริงๆ และฉันก็มีค่าเลี้ยงดูที่ต้องจ่าย ดอน มาช่วยเพื่อนเก่าหน่อยเถอะ ฮะ?